กิ้งกือดำ! สัตว์มีขาเป็นร้อยที่ชวนให้เกิดความตื่นตาตื่นใจ
กิ้งกือดำ หรือ Diplurus เป็นสมาชิกหนึ่งในกลุ่ม Myriapoda ซึ่งหมายถึง “สัตว์ที่มีหลายเท้า” และเป็นหนึ่งในกลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่พบได้ทั่วไปบนโลกนี้ KIngkUe dam หรือ Diplurus เป็นสมาชิกของกลุ่ม diplopod, subphylum ของ Arthropoda ที่รวมสัตว์ขาปล้อง เช่น แมงมุม และ ปู กิ้งกือดำเป็นกิ้งกือประเภท subterranean ซึ่งหมายความว่ามันอาศัยอยู่ใต้ดิน
กิ้งกือดำมีรูปร่างยาวและแบน ตัวสีน้ำตาลเข้มหรือเกือบดำ มีขาคู่ที่ซ้อนกันจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้มันเคลื่อนไหวไปมาในอุโมงค์แคบ ๆ ได้อย่างคล่องตัว ขาของกิ้งกือดำมีขนาดไม่เท่ากัน โดยขาคู่แรกจะใหญ่กว่าและใช้สำหรับจับอาหาร ขาคู่ต่อมาใช้สำหรับการเคลื่อนที่ กิ้งกือดำไม่มีตา แต่สามารถรับรู้สิ่งแวดล้อมโดยอาศัยเซนเซอร์บนตัว
ลักษณะ | รายละเอียด |
---|---|
ขนาด | 20-40 มิลลิเมตร |
สี | น้ำตาลเข้ม ถึง ดำ |
รูปร่าง | แบน ยาว |
ขา | จำนวนมาก (ประมาณ 30 - 100 คู่) |
วิถีชีวิตและอาหาร
กิ้งกือดำเป็นสัตว์กินซาก และ มักจะอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ดินลูกรัง และ ข้างใต้ก้อนหิน มันจะใช้ขาคู่แรกของมันในการจับเหยื่อซึ่งมักจะเป็นซากของแมลงและสัตว์อื่นๆ
กิ้งกือดำเป็นสัตว์ที่ไม่ก้าวร้า และ ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ อย่างไรก็ตาม หากถูกคุกคาม มันจะขดตัวขึ้นเพื่อป้องกันตัวเอง
การสืบพันธุ์
กิ้งกือดำเป็นสัตว์ hermaphrodite ซึ่งหมายความว่ามันมีอวัยวะเพศทั้งสองอย่าง ผู้ตัวและเมียตัวสามารถวางไข่ได้ โดยปกติแล้ว กิ้งกือดำจะวางไข่ในรังที่ขุดไว้ใต้ดิน
บทบาททางนิเวศวิทยา
กิ้งกือดำมีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายซากอินทรีย์ ซึ่งช่วยให้ระบบนิเวศคงความสมดุล การกินซากของมันช่วยในการนำสารอาหารกลับคืนสู่ดิน
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ
- กิ้งกือดำสามารถอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้นานถึง 10 ปี!
- ขาของกิ้งกือดำสามารถหลุดออกจากตัวได้เมื่อถูกคุกคาม ซึ่งเป็นกลไกป้องกันตัวเองอย่างหนึ่ง
สรุป
กิ้งกือดำ เป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ แม้จะมีรูปร่างที่ดูน่าเกรงขาม แต่ก็เป็นสัตว์ที่ไม่ก้าวร้า และ ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ การเรียนรู้เกี่ยวกับกิ้งกือดำ ช่วยให้เราเข้าใจถึงความหลากหลายของสattamentooที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ได้มากขึ้น